โทร : 02 489 4991-5 | แฟกซ์ : 02 489 4996 | info@niceholidaytour.com, ob@niceholidaytour.com

Stockholm

23 SEP
2015

กรุงสตอกโฮล์ม
เมืองหลวงแห่งประเทศสวีเดน...

    สตอกโฮล์ม(Stockholm) เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรสวีเดน เป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิกตั้งอยู่บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ในยุโรปเหนือ มีเขตแดนทางตะวันตกติดประเทศนอร์เวย์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดประเทศฟินแลนด์ และช่องแคบ สแกเกอร์แรก (Skagerrak) ทางตะวันตกเฉียงใต้ติดช่องแคบแคทีแกต (Kattegat) และทางตะวันออกติดทะเลบอลติก และอ่าวบอทเนีย พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศประกอบด้วยป่าไม้ และภูเขาสูง

   กรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน และยังเป็นนครหลวงอันงดงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย จนได้รับขนานนามว่า ความงามบนผิวน้ำ (Beauty on Water) หรือราชินีแห่งทะเลบอลติก ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 14 เกาะที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก (Baltic Sea) ทะเลสาบมาลาเร็น (Lake Malaren) ทำให้สตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สตอกโฮล์ม ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกของประเทศสวีเดน มีประชากรในเขตเทศบาลสตอกโฮล์ม 774,000 คน ถ้านับเขตที่อยู่อาศัยโดยรอบทั้งหมดจะมีประชากรประมาณ 1.7 ล้านคน

   สถานที่ท่องเที่ยวในสตอกโฮล์ม

   พระราชวังหลวง (The Stockholm Palace หรือ the Royal Palace) เป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของพระราชวงศ์สวีเดนและเป็นหนึ่งในพระราชวังที่งดงามมากที่สุดในบรรดาพระราชวังทั้งหมดของยุโรป

   เมืองเก่า (Gamla Stan) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังหลวง มีกลิ่นอายของศตวรรษที่ 17 ทั้งบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงามในรูปแบบงานสถาปัตยกรรมแบบสวีเดน เช่นเดียวกับเสน่ห์ของตรอกซอกซอยต่างๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านกาแฟและร้านหนังสือต่างๆ

   พิพิธภัณฑ์วาซา (The Vasa Museum) ตั้งอยู่บนเกาะ Djurgarden ในเขต Ostermalm ของสตอกโฮล์ม เป็นพิพิธภัณฑ์เรือรบโบราณที่จมอยู่ใต้ทะเลนาน ถึง 333 ปี นับว่าเป็นทรัพย์สมบัติทางศิลปะที่โดดเด่นและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

   ศาลาว่าการเมือง หรือ พิพิธภัณฑ์เมืองสตอกโฮล์ม (Stockholms stadshus) เป็นอาคารที่มีความสวยงามสะดุดตาและเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสตอกโฮล์ม ด้วยคุณลักษณะพิเศษของตัวอาคารที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงทั้งหลัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ถึงเกาะที่ยิ่งใหญ่ (King Island) เนื่องจากก่อตั้งมานานตั้งแต่ปี 1923 และยังเป็นสถานที่จัดเลี้ยงรับรองผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลประจำปีอีกด้วย